2013/10/17

Review: Romeo VS Juliet (Vampire Route)

(โพสครั้งแรก 6 Sep. 2013)

<< Romeo VS Juliet >>
 
ロミオVSジュリエット


เกมใหม่ล่าสุดจาก Quinrose ผู้ชื่นชอบการหยิบวรรณกรรมมาแปลงเป็นเกมค่ะ
 
หลังจากเล่นกับวรรณกรรมเด็กไปเยอะแล้ว คราวนี้เปลี่ยนแนวมาเป็นนิยายยอดนิยมอย่าง "โรมิโอกับจูเลียต" บ้างค่ะ!!
 
แต่ค่ายนี้ทั่้งที ไม่ยกเนื้อเรื่องแบบออริจินอลมาทั้งหมดหรอกค่ะ เลยจับมายำใหม่ออกมาเป็นเกมชื่อ " Romeo VS Juliet " แทน
 
ธีมเรื่องคือความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์ ใช่ค่ะ คุณอ่านไม่ผิด นิยายโรแมนติกโศกนาฏกรรมของคุณหอกสั่นเช็คสเปียร์กลายมาเป็นเกมล่างาบหนุ่มแวมไพร์ค่ะ....
 
นางเอกของเราเป็นแวมไพร์ฮันเตอร์ ส่วนพระเอกเป็นราชาแวมไพร์ค่ะ
แหม่ กลิ่นพล็อตคลิเช่ลอยมาแต่ไกล =w=
 
หนุ่มหลักๆที่งาบได้มี 6 คนค่ะ แบ่งเป็น 3 รูทใหญ่ ได้แก่ รูทแวมไพร์ รูทฮันเตอร์ และรูทผู้รักความสงบค่ะ
 
จขบ.เพิ่งเล่นรูทแวมไพร์จบค่ะ ฟินกันไปเลยทีเดียว ถึงกับไปสกรีมลงฟบ.เรียบร้อยแล้ว (ฮา)
 
 
เอาเป็นว่าก่อนจะมาสกรีมต่อในบล็อก ขอแนะนำตัวละครก่อนแล้วกันค่ะ
 
 
Juliet Capulet
ジュリエット=キャピュレット


น้องนางเอกของเรา ผู้นำตระกูลCapulet ซึ่งเป็นตระกูลหนึ่งที่ปกป้องมนุษย์จากเหล่าแวมไพร์ พ่อแม่นางโดนแวมไพร์ฆ่าตั้งแต่เด็ก เลยตั้งใจฝึกฝนเพื่อเป็นฮันเตอร์ที่เก่ง
 
 
Romeo Montague
ロミオ=モンタギュー
CV - 櫻井 孝宏 (Sakurai Takahiro)


ทั้งชื่อทั้งหน้าตาก็รัศมีพระเอกมาแต่ไกล (ฮา) ผู้นำตระกูลMontague ถือได้ว่าเป็นราชาของเหล่าแวมไพร์ เคยมีปมในอดีตทำให้เกลียดมนุษย์ จึงต่อต้านการปรองดองระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์
 
 
Mercutio Eterna
マキューシオ=エテルナ
CV - 遊佐浩二 (Yusa Kouji)


ผู้เป็นทั้งเพื่อนทั้งลูกพี่ลูกน้องของโรมิโอ ปากจัดกัดเจ็บ แต่สเน่ห์แรง สาวติดกันตรึม (ฮา) แต่เห็นหน้าละอ่อนแบบนี้ อายุมากกว่าโรมิโออีกค่ะ คอยติดตามรับใช้และเทิดทูนโรมิโอมากกว่าอะไร
 
 
Lawrence Globus
ロレンス=グロブス  
CV - 羽多野渉 (Hatano Wataru)


อาจารย์ของนางเอก เป็นแวมไพร์ฮันเตอร์ที่คอยให้ความช่วยเหลือและทำงานเพื่อโบสถ์มาตลอด เสียตาข้างนึงเพราะการต่อสู้ นับได้ว่าเป็ยฮันเตอร์ที่เก่งกาจมากคนหนึ่ง
 
 
Paris Verona
パリス=ヴェロナ
CV - 木村良平 (Kimura Ryohei)


แวมไพร์ฮันเตอร์ผู้เป็นคู่หมั้ันของนางเอก และเนื่องจากเป็นหลานชายของเทศมนตรีเมืองด้วยทำให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อด้วย ภายนอกเป็นคนใจดี แต่อย่าให้จับปืนค่ะ...
 
 
Escalus Verona
エスカラス=ヴェロナ
CV - 井上和彦 (Inoue Kazuhiko)


คุณปู่เทศมนตรีเมือง เนื่องจากเป็นลูกครึ่งแวมไพร์เลยยังหน้าละอ่อนแม้ว่าจะอายุ400กว่าปีแล้ว.... เป็นผู้ริเริ่มความคิดและแผนที่จะให้มนุษย์และแวมไพร์ปรองดองกัน
 
 
Benvolio Montague
ベンヴォーリオ=モンタギュー
CV - 子安武人 (Koyasu Takehito)


ญาติของโรมิโอ แต่เป็นแวมไพร์ที่สนับสนุนแผนปรองดองระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์ เพิ่งกลับมายังเมืองเวโรน่าหลังจากไปอยู่ต่างเมืองมานาน
 
 
ต่อไปเป็นเหล่าตัวประกอบอาหารตาค่ะ \(=q=)/
 
William Shakespeare
ウィリアム=シェイクスピア
CV - 小野友樹 (Ono Yuki)


เช็คสเปียร์ค่ะ เช็คสเปียร์!!!!! เป็น2Dแล้วหล่อเกิ๊น น้ำลายยืดกันเลยทีเดียว =q= คราวนี้พลิกมาเป็นหมอ รักษาได้ทั้งมนุษย์ทั้งแวมไพร์ งานอดิเรกคือผสมยาแปลกๆแล้วหาตัวทดลองยา (ฮา)
 
 
Tybalt Capulet
ティボルト=キャピュレット
CV - 細谷佳正 (Hosoya Yoshimasa)


น้องชายไม่แท้ของนางเอก คือหลังจากที่พ่อแม่นางเอกตาย แม่ของTybaltที่เป็นน้องของพ่อนางเอก เลยรับนางเอกมาเลี้ยงด้วย ค่อนข้างหวงพี่สาว
 
 
Balthasar Aquila
バルサザー=アクイラ
CV - 榎本温子 (Enomoto Yasuko)


หัวหน้าสาวใช้ของตระกูลMontague คอยรับใช้โรมิโอ แล้วก็เคารพแค่โรมิโอคนเดียวด้วย จริงๆแอบซึนค่ะ เสียงแอ๊บแบ๊วนี่หลอกลวงมาก (ฮา)
 
 
ตัวเกมไม่ยาวมากค่ะ ถ้าเทียบกับอลิสฯ เพื่อนแท้อย่างปุ่ม skip ช่วยให้จบทุกEDได้ภายในวันเดียว =w=+
 
 
เอาล่ะ ต่อไปเป็นการสกรีมและสปอยนะคะ ระวังตัวให้ดี!!!
 
 
<< Vampire Route >>
 
รูทนี้มีอยู่ 2 คนค่ะ คือ Romeo กับ Mercutio 
 
 
OP >> จะเปิดเรื่องมาด้วยการย้อนความทรงจำนางเอกเกี่ยวกับตอนที่พ่อแม่ของตัวเองตาย นางเอกที่ยังเป็นเด็กเดินร้องไห้อยู่ท่ามกลางแสงจันทร์ อยู่ๆก็มีเด็กผู้ชายผมสีทองเข้ามาถามว่าเธอร้องไห้ทำไม นางเอกเลยปล่อยโฮแล้วทั้งสองคนก็กอดกันร้องไห้ กระทั่งเวลาผ่านไปหลายปีนางเอกโตขึ้นกลายเป็นนักเรียนแวมไพร์ฮันเตอร์ และกำลังเตรียมตัวเพื่อสอบเป็นฮันเตอร์เต็มตัว วันหนึ่งเทศมนตรีเมืองเรียกให้ทุกคนมารวมตัวกันและประกาศว่าจะเสนอแผนปรองดองระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์ ทุกคนก็ฮือฮาก่อนจะแตกความเห็นออกเป็น2ฝ่ายคือ เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่ระหว่างที่กำลังประชุมอยู่นั้น เสียงระฆังซื่งเป็นสัญญาณว่ามีแวมไพร์บุกมาก็ดังขึ้นเสียก่อน พวกฮันเตอร์มืออาชีพจึงออกไปรับมือ นางเอกขอตามไปด้วย รวมเป็น 5 คน ทั้งหมดรีบไปยังชานเมืองและบุกเข้าไปในอาคารที่ได้รับแจ้งว่ามีแวมไพร์อยู่ แต่ปรากฏว่าพวกเธอต้องเผชิญหน้ากับแวมไพร์30กว่าตน นางเอกพยายามสู้ แต่ก็พลาดท่าโดนจับบีบคอ ตอนที่กำลังจะแย่นั้น ชายผมสีทองและผมสีเงินก็ปรากฏตัวขึ้น ฝูงแวมไพร์แตกกระเจิง ทำให้นางเอกรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ชายผมสีทองแนะนำตัวเองว่าชื่อ โรมิโอ มอนตาคิว .....และนี่คือการพบกันครั้งแรกของราชาแวมไพร์และหญิงสาวผู้นำตระกูลคาปุเล็ต
 
คนรู้จักของนางเอกได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้ครั้งนี้และต้องหยุดรักษาตัว นางเอกจึงตัดสินใจขอเร่งการสอบเป็นฮันเตอร์เพื่อที่จะได้รีบกลับไปยังบ้านของตน แต่ระหว่างนั้นตระกูลเวโรน่าได้ส่งข้อความไปยังแม่บุญธรรมของนางเอกขอร้องแกมบังคับให้นางเอกหมั้นกับปารีส แม้ว่านางเอกจะไม่ต้องการแต่ก็ขัดขืนไม่ได้ แต่กระนั้นก็ยังยืนยันว่าจะเป็นฮันเตอร์ต่อไป หลังจากที่สอบผ่านและได้กลับมาที่บ้านแล้ว วันหนึ่งขณะที่นางเอกออกไปตามหาน้องชายที่ยังไม่กลับบ้าน เธอก็พบกับแวมไพร์จำนวนหนึ่งล้อมเข้ามาจะทำร้ายเธอ  นางเองมีหรือจะยอมแพ้เลยยิงสวนกลับไป แต่สุดท้ายก็พลาดท่าเหมือนเดิม และอีกครั้งที่โรมิโอ และชายหนุ่มผมเงินชื่อ เมอร์คิวชิโอ เข้ามาช่วยเหลือเธออีกครั้ง
 
ถึงตรงนี้จะมีตัวเลือกเพื่อแยกเข้ารูทของทั้ง2คนค่ะ
 
 
Romeo >> นางเอกเลือกที่จะอยู่กับโรมิโอแทนที่จะไล่ตามเมอร์คิวชิโอไป นางเอกไม่ลืมหันไปขอบคุณเขาที่เคยช่วยเธอไปถึง 2 ครั้งแล้ว แต่โรมิโอกลับหัวเราะแล้วบอกว่านางเอกเป็นคนแปลกๆ เขาเป็นแวมไพร์ที่นางเอกไม่จำเป้นต้องมาขอบคุณ สิ่งที่ควรจะทำคือเกลียดแวมไพร์ให้สุดหัวใจต่างหาก ว่าแล้วโรมิโอก็ดึงปืนนางเอกมาเล็งที่หัวใจของตน และบอกว่าสิ่งที่เธอต้องกำจัดคือเขา โรมิโอ มอนตาคิว ราชาแวมไพร์ต่างหาก ก่อนจะกระซิบข้างๆหูนางเอกว่า เขาเองก็ต้องการเลือดของเธอเหมือนกัน...
ผ่านไปหลายวันหลังจากวันนั้นก็ไม่มีการโจมตีจากแวมไพร์อีกเลย แต่ใช่ว่าจะสบายใจ เพราะทั้งนางเอกและน้องชายต่างก็รุ็สึกว่าเป็นการหลอกให้ตายใจมากกว่า นางเอกนึกถึงสิ่งที่โรมิโอพูดไปด้วย เย็นวันนั้นนางเอกออกไปลาดตระเวน และรู้สึกถึงความผิดปกติที่ตามเธอมา นางหันไปยิงแต่พลาดเป้า ปรากฏว่านั่นคือโรมิโอ นางเอกตกใจว่าทำไมมาคนเดียว โรมิโอได้แต่หัวเราะและเดินเข้ามาใกล้ นางเอกพยายามยิง แต่ก็ไม่ทัน เธอโจมตีทางด้านหลังลงไปหน้าทิ่มอยู่บนพื้น นางเอกยิ่งเลือดขึ้นหน้า พยายามจะยิงอีก แต่คราวนี้เธอถูกโรมิโอคว้าแล้วจับมือกดไว้ นางเอกยังใจแข็ง บอกว่าถ้าจะฆ่าก็รีบฆ่าเธอซะ แต่โรมิโอกลับบอกว่าการที่แวมไพร์โจมตีมนุษย์น่ะก็เพื่อดูดเลือด ไม่ใช่เพื่อฆ่า และแวมไพร์ชั้นสูงน่ะ ไม่มีทางดูดเลือดใครจนตายหรอก ว่าแล้วเขาก็เลยพิสูจน์ด้วยการดูดเลือดนางเอกเลย นางเอกเตรียมใจตายแล้วแต่ก็ไม่ตายแถมยังรู้สึกอบอุ่นและรู้สึกดีแทนเสียอีก แต่เธอก็ไม่พูดตรงๆ กลบเกลื่อนเรื่องไป แล้วถามว่าทำไมโรมิโอถึงจ้องจะเป็นศัตรูกับเธอ โรมมิโอช็อกเพราะไม่คิดว่านางเอกจะไม่รู้เรื่องนี้ ก่อนจะเล่าว่าพ่อของเขาถูกพ่อของเธอฆ่าตาย พร้อมทั้งประกาศว่าเขาจะเป็นคนฆ่านางเอกเอง...
หลังจากวันนั้นแวมไพร์ก็เข้ามาโจมตีอย่างต่อเนื่อง นางเอกก็ต้องออกไปไล่ยิงทุกคืน จนได้เจอกับโรมิโอ เขาบอกว่าสิ่งที่เธอขาดอยู่คือประสบการณ์ รวมทั้งย้ำอีกครั้งว่าคนที่จะฆ่านางเอกคือตัวเขาเอง คืนนั้นระหว่างที่นางเอกนั่งคิดกับเองอยู่ โรมิโอก็มาหาและเอาของที่เธอทำหล่นมาคืนให้แล้วกลับไป ก่อนที่นางเอกจะกลับเข้าห้อง เธอก็เจอกับเด็กสาวที่บอกว่าตัวเองเป็นคนรับใช้ของโรมิโอ ผ่านไปหลายวันนางเอกถูกเรียกเข้าไปคุยเรื่องการหมั้นกับปารีส คืนนั้นเธอออกไปสู้กับโรมิโอเหมือนเดิม แต่ถูกเขาคาดคั้นว่าเทศมนตรีไปคนยังไง ระหว่างนั้นลูกน้องของโรมิโอเข้ามารายงานว่าจับแวมไพร์และชาวบ้านที่เห็นด้วยกับการปรองดองได้ โรมิโอจึงเสนอข้อแลกเปลี่ยนกับนางเอกให้เธอมาเป็นของเล่นของเขา นับตั้งแต่คืนนั้นนางเอกก็ออกมาเจอโรมิโอบ่อยๆจนน้องชายผิดสังเกตแต่นางเอกก็ตอบปัดๆไป คืนนั้นมีแวมไพร์เข้าโจมตีเหมือนเดิม นางเอกจึงออกไปจัดการแต่พลาดท่าจนเกือบจะถูกดูดเลือด โรมิโอเข้ามาช่วยไว้แต่ก็ดูดเลือดเธอจนนางเอกสลบไป  พอนางฟื้นขึ้นมาก็พบว่าโรมิโอเป็นคนพาเธอกลับมาส่งที่ห้องแถมยังยืนเฝ้าอยู่ที่นอกระเบียงจนตัวเองฟื้นด้วย
วันต่อมานางเอกถูกเรียกไปคุยเรื่องขอให้เป็นตัวแทนเรื่องการปรองดองซึ่งนางเอกก็ยินดี แต่อีกเรื่องคือเรื่องการหมั้นนั้น นางเอกได้แต่อ้ำอึ้ง คืนนั้นเธอออกไปประมือกับโรมิโอเหมือนเดิม แต่โรมิโอสังเกตเห็นความผิดปกติของนางเอก นางเอกเถียงว่าไม่มีอะไร ไม่ต้องมายุ่ง แต่โรมิโอกลับดึงเธอเข้าไปกอด สุดท้ายนางเอกจึงยอมบอกเรื่องที่ตัวเองถูกจับหมั้น โรมิโอปลอบเธอก่อนจะดูดเลือดอีกครั้ง วันถัดมานางเอกเข้าไปประชุมเรื่องการปรองดองในเมือง แต่โรมิโอกลับมาปรากฏตัวแล้วลักพาตัวเธอไปที่คฤหาสน์ของเขาในฐานะตัวประกัน ระหว่างนี้นางเอกก็ได้มองเห็นและเรียนรู้การใช้ชีวิตของเหล่าแวมไพร์ จนคืนนึงนางเอกนอนไม่หลับเลยออกไปเดินเล่นและได้ยินเสียงคนเล่นเปียโน นางเอกตามไปดูและพบว่าคนที่เล่นอยู่คือโรมิโอ ทั้งสองคุยกัน นางเอกรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังมนุษย์ของเขาแต่พอรู้ตัวอีกทีเธอก็เข้าไปกอดเขาแล้ว ตอนนี้นางเอกยอมรับแล้วว่าตัวเองชอบโรมิโอแล้ว นางเอกได้แต่เจ็บปวดที่โรมิโอเป็นแวมไพร์  หลังจากนั้นจะเป็นช่วงที่นางเอกได้รู้เรื่องต่างๆเกี่ยวกับโรมิโอ เช่น เขาชอบอ่านหนังสือและวรรณกรรม ทั้งแฮมเล็ท มิดซัมเมอร์ไนท์ดรีม แต่ละเรื่องหลอนป๊าย orz รวมทั้งอยากไปดูโอเปร่าด้วย คืนหนึ่งนางเอกไปหาโรมิโอที่ห้องและได้รู้เรื่องสาเหตุที่เขาเกลียดชังมนุษย์ ครูที่เคยสอนโรมิโอและเมอร์คิวชิโอเป็นมนุษย์ แม้จะไม่ค่อยชอบใจแต่เมื่อได้รู้จักกันนานขึ้นก็สนิทกัน ทว่าครูคนนั้นกลับถูกมนุษย์ด้วยกันเองฆ่าด้วยเหตุผลว่าไปเกี่ยวข้องกับแวมไพร์... หลังจากได้รู้เรื่องแล้วคืนนั้นนางเอกกลับมาร้องไห้ที่ห้อง เธอรู้แล้วว่าคนที่สูญเสียไม่ได้มีแต่ฝั่งมนุษย์อย่างเดียว และตัดสินใจว่าการต่อสู้ระหว่างสองเผ่าพันธุ์ต้องจบลงให้ได้ ตอนนั้นเองที่โรมิโอมาที่ห้องของเธอและทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันทั้งคืน 
เช้าวันต่อมาระหว่างอาหารเช้า เมอร์คิวชอโอเอาจม.จากเทศมนตรีมาส่งให้โรมิโอ นางเอกเห็นสีหน้าก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องดีนัก โรมิโอสั่งให้คนใช้พานางเอกไปที่ห้องของเขาแล้วให้รอจนกว่าเขาจะกลับมา พอโรมิโอกลับมาก็บอกแค่เพียงว่าไม่ใช่เรื่องเกี่ยบกับเธอและให้เธอกลับห้องไปได้แล้ว นางเอกทั้งน้อยใจทั้งเสียใจ แต่ก่อนจะบอกความรู้สึกของตัวเองออกไป โรมิโอกลับจูบเธอและขอไม่ให้เธอพูดคำๆนั้นออกมา เพราะสำหรับเขาแล้ว เธอเป็นศัตรูคนสำคัญ หลายวันถัดมานางเอกไม่ได้เจอโรมิโออีกเลย แล้วอยู่ๆวันหนึ่งเมอร์คิวชิโอก็มาหาและบอกว่าเขาจะบอกเธอเรื่องเนื้อความในจดหมายนั้นก็ได้นะแต่นางเอกปฏิเสธ ไม่นานนักโรมิโอก็เข้ามาเรียกเมอร์คิวชิโอไป คราวนี้นางเอกไม่ยอม คาดคั้นโรมิโอให้เขาบอกเธอเรื่องจดหมาย แม้ว่าโรมิโอจะไม่อยากบอก แต่สุดท้ายเมอร์คิวชิโอก็เป็นคนส่งจดหมายนั้นให้นางเอกอ่านเอง จดหมายนั้นเป็นจดหมายขอให้โรมิโอส่งตัวนางเอกคืน นางเอกได้แต่ขอโทษและบอกให้เขาส่งตัวเธอคืน โรมิโอยอมทำตามคำขออย่างเศร้าใจ แต่เขาก็สารภาพความรู้สึกของตนให้นางเอกรับรู้ หลังจากส่งตัวนางเอกคืนแล้วคืนนั้นโรมิโอก้มาหานางเอกที่บ้านและทั้งคู่ก็สาบานรักต่อกัน
วันต่อมาหลังจากที่นางเอกเข้าไปรายงานสถานการณ์กับเทศมนตรี เย็นวันนั้นแวมไพร์บุกเข้ามาที่บ้านของเธอและจับตัวแม่บุญธรรมไป นางเอกตามไปช่วยแต่ก็คลาดกัน น้องชายนางเอกตามมาด้วย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ น้องชายนางเอกแสดงออกถึงความเกลียดชังแวมไพร์อย่างมาก เขาสาบานว่าจะเป็นฝ่ายปกป้องนางเอกบ้าง  และเช้าวันต่อมาตัวน้องชายก็หายไป (ไปฉากจบ1) นางเอกไม่ได้สนใจนักแต่ก็ไปที่โบสถ์ตามปกติ และพบน้องชายตัวเองที่ผันตัวมาเป็นฮันเตอร์อยู่ที่นั่น เย็นนั้นนางเอกนั่งเซ็งอยู่ในเมือง อยู่ๆก็มีชายสวมผ้าคลุมมาลากไปเธอไปและพบว่าเขาคนนั้นคือเมอร์คิวชิโอที่พาเธอมาหาโรมิโอ ถึงจะตกใจแต่นางเอกก็ดีใจที่ได้เจอโรมิโอ เธอเลยพาเขาไปเดินเล่นในเมือง และแวะร้านหนังสือ โรมิโอตาเป็นประกาย ทั้งคู่อยู่ในร้านหนังสือจนดึก ก่อนกลับลุงเจ้าของร้านหนังสือกลับอวยพรให้ทั้งคู่โชคดีในฐานะผู้นำตระกูลคาปุเล็ตและตระกูลมอนตาคิว ทั้งสองคนตกใจเพราะไม่คิดว่าลุงเจ้าของร้านจะรู้ว่าโรมิโอคือใคร 
วันหนึ่งนางเอกเอาจดหมายจากเทศมนตรีไปส่งให้โรมิโอ หลังจากที่เขาอ่านจดหมายจนจบแล้วก็เรียกให้เมอร์คิวชิโอไปจัดการ โรมิโอยอมรับแผนปรองดองแล้ว นางเอกดีใจจนร้องไห้ แต่ระหว่างที่กำลังดีใจนั้นสาวใช้ก็เข้ามาบอกว่ามีคนบุกเข้ามาโจมตี โรมิโอและเมอร์คิวชิโอจะรีบออกไปและนางเอกขอตามไปด้วย แต่เมื่อไปถึงนางเอกก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าน้องชายตัวเองอยู่ในกลุ่มหัวรุนแรงที่เข้ามาโจมตีด้วย เกิดการต่อสู้กัน น้องชายนางเอกยิงโรมิโอแต่เมอร์คิวชิโอเข้ามารับกระสุนแทน พอเห็นว่าเพื่อนตัวเองโดนยิง โรมิโอก็ฟิวขาด เข้าจัดการทุกคนที่ขวางหน้า (ไปฉากจบ2) (ไปฉากจบ3) นางเอกยอมให้เมอร์คิวชิโอกินเลือดตัวเองเพื่อจะได้หยุดโรมิโอที่กำลังคลั่ง แล้วนางเอกก็สลบไป
ในที่สุดนางเอกก็ฟื้นขึ้นมาที่ห้องของตัวเอง แม่บุญธรรมกลับมาแล้ว และเธอก็ได้รู้เรื่องจากหมอวิลเลียมว่าเมอร์คิวชิโอกลับไปรักษาตัวแลวส แต่ว่าโรมิโอหายตัวไป หลังจากที่อาการดีขึ้นนางเอกก็ไปพบเทศมนตรีรวมทั้งไปเยี่ยมน้องชายที่ติดคุกอยู่ด้วย ต่อมานางเอกก็ขอยกเลิกการหมั้นกับปารีสซึ่งเขาก็ยอมถอยให้อย่างดี จนถึงวันที่ผู้นำทั้งฝั่งแวมไพร์และฝั่งมนุษย์จะเซ็นสัญญาปรองดองกัน โรมิโอก็ยังไม่ปรากฏตัว จนวินาทีสุดท้ายในที่สุดโรมิโอก็มาถึงและเซ็นสัญญา ทำให้การปรองดองระหว่างแวมไพร์และมนุษย์สำเร็จไปได้ด้วยดี คืนนั้นโรมิโอไปหานางเอกที่บ้าน และขอโทษที่ทำให้เธอเป็นห่วง แล้วคืนนั้นทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกัน  (ไปฉากจบ4)
หลายวันต่อมานางเอกลุกขึ้นมาทำความสะอาดห้องทำงานของพ่อ และเจอรูปถ่ายใบนึง นางเอกนึกย้อนถึงคืนที่พ่อแม่ตัวเองถูกฆ่าและเธอก็นึกออกว่าคนที่ฆ่าอดตีผู้นำตระกูลมอนตาคิวคนก่อนหรือพ่อของโรมิโอนั้นคือเธอเอง! หลังจากนั้นนางเอกก็เอาแค่คิดเรื่องนี้จนทะเลาะกับโรมิโอบ้าง คืนหนึ่งโรมิโอมาหานางเอกเหมือนเดิม และบอกว่าในการประชุมมีประเด็นที่จะให้เขาแต่งงานยกขึ้นมาด้วย นางเอกช็อก วันต่อมานางเอกเลยเดินมึนๆร้องไห้ไปด้วยไปที่ร้านหนังสือ และก็ได้รู้ว่าจริงๆแล้วลุงร้านหนังสือเคยทำงานกับพ่อของตนและรู้จักกันตระกูลมอนตาคิวเป็นอย่างดี คุณลุงปลอบใจนางเอกจนดีขึ้น นางเอกเลยตัดสินใจรีบไปหาโรมิโอ เพราะมีเรื่องที่เธอต้องบอกเขาทั้งเรื่องแต่งงาน และเรื่องที่เธอเป็นคนฆ่าพ่อของเขา
นางเอกบุกไปกลางห้องประชุม เธอโผไปกอดโรมิโอแล้วขอเขาแต่งงาน!!! ทั้งห้องอึ้ง นางเอกถึงเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรไป คราวนี้ก็อายกันไปเลย จนได้รู้ว่าจริงๆแล้วคนที่โรมิโอจะแต่งงานด้วยก็คือตัวนางเอกเองนั่นแหละ หลังจากวันนั้นนางเอกก็ยังอึกอักที่จะบอกกับโรมิโอเรื่องที่เธอเป็นคนฆ่าพ่อของเขา แต่ในที่สุดเธอก็บอกเขา โรมิโออึ้งไป ก่อนจะเล่าต่อว่าจริงๆแล้วเมื่อก่อนตระกูลมอนตาคิวและตระกูลคาปุเล็ตเคยสนิทกัน แต่เกิดเรื่องขึ้นมาก่อนที่ว่าพี่ชายของเมอร์คิวชิโอถูกมนุษย์ฆ่าตาย จนทำให้ทั้งสองตระกูลเกลียดชังกันเช่นนี้ แต่ว่าไม่ว่านางเอกจะเป็นคนฆ่าเธอหรืออะไรก็ตาม เขาก็จะยังรักเธอแบบนี้ตลอดไป (ไปฉากจบ5) 

ฉากจบที่ 1  Double Suicide ED >> ถ้าความรักไม่พอ (ประมาณ 3 ขีด) จะเจอฉากจบนี้ค่ะ  ดูเหมือนว่าแผนปรองดองจะไปได้ไม่ดีนัก เนื่องจากระยะหลังมานี้ทั้งกลุ่มต่อห้านหัวรุนแรงและกลุ่มแวมไพร์ต่างออกอาละวาดอย่างหนัก เทศมนตรีเองก็ได้แต่ขอโทษที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อีกต่อไปแล้ว รวมทั้งบอกว่าคืนพระจันทร์เต็มดวงครั้งต่อไป กลุ่มหัวรุนแรงจะเข้าโจมตีและเปิดสงครามระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์ และขอให้นางเอกซึ่งเป็นผู้นำตระกูลเข้าร่วมการต่อสู่ด้วย คืนนั้นนางเอกได้แต่เศร้า โรมิโอมาหาเธอที่บ้าน และได้แต่ขอโทษที่ไม่สามารถหยุดสงครามได้อีกแล้ว นางเอกร้องไห้ และบอกเขาว่าเธอจะเป็นคนฆ่าเขาให้เอง.... จนวันพระจันทร์เต็มดวง ทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกัน นางเอกรีบวิ่งหาโรมิโอก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มสงครามกัน  
 
ฉากจบที่ 2 Elop ED >> นางเอกและโรมิโอที่เบื่อสงครามเต็มทนแล้วตัดสินใจจะหนีไปด้วยกัน ไปยังสถานที่ที่ไม่ใครรู้จักพวกเธอ แน่นอนว่าเมอร์คิวชอโอก็ตามมาด้วย เขารอดชีวิตเพราะโรมิโอเป็นคนช่วยไว้ ทั้งสามคนได้รับข่าวว่าแผนปรองดองสำเร็จไปได้ด้วยดี เท่านั้นก็ทำให้ทั้งหมดมีความสุขแล้ว  
 
ฉากจบที่ 3 Apparent Death ED >> ก็จบเหมือนออริจินอลนั่นแหละค่ะ /โดนตบ... สุดท้ายแล้วโรมิโอที่คลั่งขึ้นมาก็จัดการฆ่าน้องชายนางเอกทิ้ง รวมทั้งเมอร์คิวชิโอก็ตายด้วย หลายวันต่อมานางเอกถูกเรียกไปคุยเรื่องการแต่งงาน โดยปารีสให้เวลานางเอกคิด 3 วัน นางเอกหน้าเครียดจนไปเจอกับเบนโบริโอ ญาติของโรมิโอ เขาเห็นหน้าเอกสีหน้าไม่ค่อยดีเลยมาทัก นางเอกบอกว่าเธอถูกบังคับให้แต่งงาน เบนโบริโอจึงพาเธอไปหาหมอวิลเลียม และได้ยาตัวหนึ่งมาซึ่งพอดื่มเข้าไปแล้วจะทำให้สลบไปเหมือนตาย นางเอกยอมดื่มแล้วสลบไป คืนนั้นโรมิโอมาหาเธอที่ห้องและพบร่างนางเอก เขาคิดว่านางเอกตายแล้ว แน่นอนว่าเขาก็เลือกที่จะตายตามเธอไปด้วย... เมื่อนางเอกฟื้นขึ้นมาพบว่าโรมิโอตายแล้วเธอจึงฆ่าตัวตายตามไปด้วย...............
 
ฉากจบที่ 4 Comedy ED >>  เมืองกลับมาสงบอีกครั้ง แวมไพร์ก็เริ่มมาเดินเล่นซื้อของในเมืองบ่อยขึ้น โรมิโอก็มาหานางเอกด้วยเช่นกัน ทั้งคู่ตัดสินใจไปดูโอเปร่าด้วยกันอย่างที่โรมิโอฝันมาตลอดอย่างมีความสุข
 
ฉากจบที่ 5  Denouement ED (True ED) >> ฉากแต่งงานหวานชื่นของโรมิโอกับนางเอกค่ะ ทุกคนต่างมาแสดงความยินดี ก่อนที่จะถ่ายรูปรวมกัน และปิดรูทนี้อย่างงดงาม~

 
 
จขบ.สกรีม >> เอาจริงๆเลยนะ ส่วนตัวไม่ค่อยประทับใจรูทนี้เท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่ารักกันง่ายไปหน่อย ไม่มันเบย TwT #ผิด  นิสัยโรมิโอไม่ค่อยกร๊าวด้วย ถึงจะเป็นพวกมั่นใจในตัวเองสูงแต่เนื้อเรื่องแบบพระเอกเกิ๊น ไม่มีฉากให้คนเล่นสกรีมแบบเต็มที่ แถมได้CGครบทุกฉาก สมกับเป็นพระเอกจริงๆ....   

เดี๋ยวกลับมาต่อเมอร์คิวชิโอค่ะ =w=)/
 
โอเค กลับมาต่อละค่ะ เมื่อคืนเจอ bad gateway เข้าไปจนเบื่อ orz
 
 
Mercutio >> เนื้อเรื่องจะคล้ายๆกับฝั่งโรมิโอค่ะ แต่คนดำเนินเรื่องเป็นเมอร์คิวชิโอแทน
นางเอกเลือกที่จะตามเมอร์คิวชิโอไป เพราะเธอเป็นห่วงว่าเขาจะทำอะไรเกินเลยในเขตพื้นที่ของเธอ พอไปถึงก็พบเมอร์คิวชิโอกำลังจัดการลงโทษพวกแวมไพร์ที่โจมตีเธอเมื่อครู่ เมือร์คิวชิโอเห็นนางเอกตามเขามาคนเดียวก็งง แต่พอรู้ว่านางเอกเลือกที่จะตามมาเขามาเอง ปรากฏว่าเขากลับถูกใจนางเอกเสียแทน เมอร์คิวชิโอบอกนางเอกว่าเขายกหน้าที่ลงโทษตัวเขาเองให้นางเอกแล้วกัน ก่อนจะดึงนางเอกเข้าไปกอด นางเอกก็อึ้งๆงงๆได้แต่คิดว่าเมอร์คิวชิโอเป็นพวกที่อารมณ์เปลี่ยนง่ายจริง
ผ่านไปหลายวันไม่มีการโจมตีจากแวมไพร์อีกเลยจนทั้งนางเอกและน้องชายรู้สึกผิดสังเกตรวมทั้งไม่ค่อยสบายใจด้วย ตัวนางเอกเองก็เอาแต่นึงถึงเรื่องเมอร์คิวชิโอ จนน้องชายต้องเรียกถึงจะรู้สึกตัวว่าถึงเวลาต้องออกลาดตระเวนแล้ว เย็นวันนั้นระหว่างที่กำลังตรวจตราอยู่นั้นเธอก็ได้ยินเสียงร้อง นางเอกจึงรีบวิ่งไปดู ปรากฏเธอเจอกับเมอร์คิวชิโอที่กำลังแกล้งทำโทษเด็กน้อยแวมไพร์อยู่ แม้ว่าเด็กจะกลัวเมอร์คิวชิโอแค่ไหนแต่พอเห็นนางเอกที่เป็นฮันเตอร์ก็ร้องไห้ชอให้เขาช่วยยิ่งกว่าเดิม นางเอกได้แต่ยิ้มแห้งๆไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไงดี เด็กน้อยแวมไพร์สารภาพว่าตัวเองโดนห้ามไม่ให้เข้ามาให้เขตมนุษย์แต่ว่าน้องๆอยากกินสตอร์เบอร์รี่ป่า เขาเลยแอบข้ามมา นางเอกสงสารเลยเก็บผลไม้ให้เด็กน้อยก่อนที่เด็กน้อยจะวิ่งกลับเข้าป่าไป เมอร์คิวชิโอเห็นอย่างนั้นก็แปลกใจ ถามว่านางเอกทำอย่างนั้นทำไม ทั้งเขาทั้งเด็กนั่นเป็นแวมๆพร์ที่เธอควรเกลียดไม่ใช่เหรอ นางเอกตอบว่าเธอไม่คิดว่าแวมไพร์จะแย่ไปทั้งหมด เมอร์คิวชิโอได้ยินเลยหัวเราะลั่น แล้วบอกว่านางเอกนี่เป็นพวกบ้าชัดๆ แต่เขาไม่ได้เกลียดหรอกนะ คืนนั้นนางเอกนอนไม่หลับเพราะมัวแต่คิดเรื่องเมอร์คิวชิโอเลยตัดสินใจลงไปเดินเล่นในสวน แต่ปรากฏว่าเธอถูกใครซักคนดึงตัวไปปิดปากไว้ นางเอกหงุดหงิดที่ตัวเองต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เลยกัดมือคนที่ปิดปากเธอซะเลย เจ้าของมือร้องลั่นและนั่นทำให้เธอรู้ว่าคนๆนั้นคือเมอร์คิวชิโอ ทั้งสองคนคุยกัน ก่อนที่อยู่ๆเขาจะบอกว่านางเอกเนี่ยน่ากินนะ คงเป็นเพราะเธอเป็นสาวบริสุทธิ์แน่ๆ นางเอกเลยชกเมอร์คิวชิโอหน้าหงายพร้อมกับด่าว่าเลวที่สุด.......
วันต่อมานางเอกเข้าไปเจอเทศมนตรีเรื่องการปรองดองและเรื่องหมั้นของเธอกับปารีส แม้ว่านางเอกจะพยายามปัดว่าตอนนี้ยังไม่พร้อมแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี ตอนเย็นระหว่างที่เธอนั่งรถม้ากลับ กลับมีแวมไพร์โจมตีรถม้าและคนขับ นางเอกจะออกไปช่วยแต่ดันถูกฟาดจนทรุดและถูกพาตัวลากไปในป่า นางเอกไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำแต่ก็ตัดสินใจว่าจะสู้ ทันทีที่อีกฝ่ายเปิดช่องว่างนางเอกก็ยิงปืนใส่ทันที แต่ว่าคนที่อยู่ตรงนั้นกลับเป็นเมอร์คิวชิโอ เธอก็ตกใจก่อนจะขอโทษและขอบคุณ แต่พอถามถึงลุงคนขับรถม้าแล้วเขาทำหน้างงๆ นางเอกก็ตกใจแล้วรจะรีบกลับไปช่วย แต่เมอร์คิวชิโอบอกว่าจะช่วยทำไม ลุงแบบนั้นตายไปคนสองคนก็ไม่เสียหายเหรอ นางเอกโกรธจัดเลยตบเขาแล้วบอกว่าไม่อยากเห้นหน้าเขาอีกแล้วก่อนที่ตัวเองจะรีบวิ่งกลับไป แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว ไม่มีใครอยู่ที่นั่นอีกแล้ว นางเอกถึงกับทรุด... คืนนั้นหลังจากกลับถึงบ้าน นางเอกก็ยังเสียใจที่ว่าเธอช่วยลุงไว้ไม่ได้ รวมทั้งที่เธอทั้งตบเมอร์คิวชิโอทั้งบอกว่าไม่อยากเห็นหน้าเขาอีก ระหว่างที่กำลังเศร้าอยู่นั้น อยู่ๆเมอร์คิวชิโอก็มาเคาะหน้าต่างระเบียงเธอ เขามาขอโทษเธอที่ตัวเองพูดอย่างนั้น นางเอกเองก็ขอโทษเขา เมอร์คิวชิโอบอกว่าที่เขาช่วยนางเอกเพราะเธอเป็นของเล่นของโรมิโอ ขืนเป็นอะไรไปโรมิโอก็น่าสงสารแย่ แต่นางเอกก็เถียงว่าถ้าจะช่วยก็ช่วยให้หมดสิ เพราะเธอเองก็จะช่วยแวมไพร์อย่างเขาเหมือนกันถ้าเกิดอะไรขึ้น เมอร์คิวชิโอตาเป็นประกายก่อนจะโมเมว่าเพราะนางเอกชอบเขาสินะ นางเอกเงิบแล้วบอกว่าไม่ใช่!! แล้วอยู่ๆเขาก็ถามเธอว่าต้องทำยังไงนางเอกถึงจะยอมให้เขาดูดเลือด นางเอกบอกไม่เอาด้วยหรอกเพราะเธอกลัวตาย แต่เขารับปากว่าจะไม่ทำให้เธอตายหรอก กลับกันจะทำให้เธอรู้สึกดีแทนต่างหาก แต่ยังไงนางเอกก็ไม่เอาด้วย เมอร์คิวชิโอพูดเกี่ยวกับโรมิโอแต่นางเอกไม่ค่อยเข้าใจ สุดท้ายก่อนจะกลับ เขาก็จุ๊บเธอผ่านกระจกหน้าต่างแล้วหายไปในความมืด
เช้าวันต่อมา น้องชายของนางเอกมาปลุกแล้วบอกว่ามีคนเจอลุงคนขับรถม้าแล้ว ถึงจะบาดเจ็บสาหัสแต่ก็รอดชีวิต นางเอกดีใจและคิดว่าเมอร์คิวชิโอเป็นคนช่วยไว้แน่ๆและตั้งใจไว้ว่าจะขอบคุณเขา เย็นวันนั้นหลังจากกลับมาในเมืองแล้ว นางเอกก็ออกไปเดินเล่นพร้อมกับตรวจสถานการณ์ พอเดินไปถึงสะพานเชื่อมระหว่างเขตแดนของเธอกับแวมไพร์ นางเอกก็เห็นเมอร์คิวชิโอนอนหลับอยู่ตรงโขดหิน นางเอกตกใจว่าเขาจะโดนแดดเผาเลยรีบวิ่งไปหาเพื่อจะช่วย แต่ปรากฏว่าตรงที่เขานอนอยู่เป็นที่ร่มพอดี แถมเธอยังโดนเขาจูบแก้มแล้วกอดอีกต่างหาก นางเอกถามกลับว่าเขาทำทำไม เมอร์คิวชิโอตอบว่าเพราะดูท่าทางนิ่มดี ก่อนจะหลับไปอีกครั้งทั้งที่ยังกอดนางเอกอยู่ นางเอกได้แต่พึมพำว่าก็เธอกลัวเขาจะตายนี่นาพร้อมกับขอบคุณเขาที่ช่วยลุงคนขับรถม้า ก่อนที่จะเผลอหลับไปพร้อมกัน หลายวันต่อมานางเอกถูกเรียกไปคุยเรื่องการปรองดองและการหมั้นอีกครั้ง พอกลับมาถึงบ้าน แม่บุญธรรมก็ส่งจดหมายให้บอกว่ามีคนฝากมา นางเอกเปิดอ่านแล้วก็รู้ว่าเป็นจดหมายจากเมอร์คิวชิโอ เนื้อความในจดหมายทำให้เธออารมณ์ดีขึ้น แล้วคืนนั้นเมอร์คิวชิโอก็มาหาและสังเกตเห็นความผิดปกติของนางเอก ตอนแรกเธอไม่ยอมบอกแต่พอถูกต้อนเข้าจึงยอมบอกเรื่องที่ตัวเองถูกจับหมั้น เขาเลยแนะนำว่าถ้าอย่างนั้นเธอจะหนีก็ได้นี่ นางเอกได้แต่รับคำอย่างไม่มั่นใจนัก
วันถัดมานางเอกเข้าไปประชุมเรื่องการปรองดองในเมือง แต่ปรากฏว่าเมอร์คิวชิโอมาลักพาตัวเธอไปที่คฤหาสน์ของเขา นางเอกหงุดหงิด เมอร์คิวชิโอเลยพยายามง้อและบอกว่าก็ตัวนางเอกเองบอกว่าอยากจะหนีเขาก็เลยช่วยไง แล้วเริ่มจูบนางเอก แต่มีเหรอที่นางเอกจะยอม นางเลยทุบเขาเสียงดังพร้อมกับด่าว่าแวมไพร์ลามก เมอร์คิวชิโอเถียงว่าไม่ได้จะทำอะไรรุนแรงซักหน่อยแต่ก็ต้องเหวอเมื่อเห้นว่านางเอกจะร้องไห้ นางเอกเถียงว่าไม่ได้ร้องแต่สุดท้ายก็ร้อง เมอร์คิวชิโอไม่รู้จะทำยังไงเลยดึงนางเอกมากอดแล้วขอโทษ นางเอกเองก็ขอโทษที่ทุบเขาเหมือนกัน แต่ก็เพราะว่าเธอไม่ได้ชอบเขาและเขาไม่ฟังที่เธอพูดด้วยต่างหาก เมอร์คิวชิโอเลยถามกลับว่าถ้านางเอกชอบเขาแล้วจะยอมให้เขาทำแฃอย่างนั้นได้ใช่มั้ย และจะยอมให้ดูดเลือดด้วยใช่มั้ย นางเอกได้แต่อ้ำอึ้งและบอกปัดๆว่าเธอก็คงอาจจะยอม
วันต่อมานางเอกฝันแปลกๆถึงตอนที่พ่อแม่ตัวเองตาย พอตื่นก็นึกได้ว่าตัวเองอยู่ที่คฤหาสน์ของเมอร์คิวชิโอ นางเอกขอร้องว่าอยากกลับบ้านแต่เขาไม่ยอมแถมยังบอกว่าให้เธออยู่เป็นตัวประกันนี่แหละ จะได้มีเวลาเรียนรู้วิถีชีวิตของแวมไพร์ไปด้วย หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จโรมิโอ เมอร์คิวชิโอแล้วก็นางเอกออกไปเดินเยี่ยมหมู่บ้าน ทำให้นางเอกรู้ว่าเมอร์คิวชิโอน่ะป๊อปมากในหมู่สาวๆ  เมอร์คิวชิโอไปช่วยลูกแมวลงมาจากต้นไม้ก็เลยเก็บไปเลี้ยงด้วยเลย หลังจากนั้นโรมิโอขอกลับก่อนเพราะมีงานอื่น เลยเหลือแค่นางเอกกับเมอร์คิวชิโอไปต่อ นางเอกพยายามจะหนีแต่ความแตกก่อน เมอร์คิวชิโอเลยยื่นข้อเสนอกันนางเอกว่าถ้าอยากจะหนีขนาดนั้นให้มาเล่นเกมกับเขา ถ้านางเอกหนีไปจากเขตป่าได้ก็ถือว่านางเอกชนะ แต่ถ้าเธอแพ้จะต้องยอมให้เขาดูดเลือด ซึ่งแน่นอนค่ะว่านางเอกแพ้ตลอด... จนคืนหนึ่งระหว่างที่นางเอกกำลังจะนอน ก็ได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชายอยู่นอกห้องเลยแอบฟังเพราะอยากรู้ว่าเป็นใคร ปรากฏว่าเด็กทั้งสองคนนั้นเป็นน้องของเมอร์คิวชิโอ ซึ่งจริงๆแล้วเขาไม่อยากให้นางเอกรู้เรื่องนี้เพราะถือว่าเป็นจุดอ่อนของเขา แล้วเมอร์คิวชิโอก็เดินเข้าห้องนางเอกแล้วดึงนางเอกไปกอดพร้อมกับกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงและบ่นว่าทำไมเขาถึงเกิดอยากแนะนำให้นางเอกกับน้องตัวเองรู้จักกันนะ นางเอกได้แต่เหวอและบอกให้เขาใจเย็นๆ ทั้งๆที่ตัวเองก็แอบหวังอยากฟังเหตุผลของเขาด้วย
วันถัดมานางเอกกันน้องฝาแฝดของเมอร์คิวชิโอไปหาโรมิโอที่คฤหาสน์ ตัวเมอร์คิวชิโอไม่ได้ไปด้วยเพราะติดประชุมอีกเรื่อง ระหว่างทางนางเอกก็เผลอคิดถึงเรื่องเมื่อคืนที่เขาบอกว่าไม่อยากกลับห้องตัวเอง อยากอยู่กับนางเอกมากกว่า นางเอกก็ไม่ได้ปฏิเสธเพราะถือว่าที่นี่คือบ้านของเมอร์คิวชิโอซึ่งเจ้าของบ้านก็มีสิทธิ์จะทำอะไรยังไงก็ได้อยู่แล้ว เมอร์คิวชิโอยิ้มก่อนจะกอดนางเอกและบอกว่าเขาไม่ได้ชอบมนุษย์หรอกนะ นางเอกก็ตอบรับว่าเธอเองก็เป็นฮันเตอร์เพื่อล่าแวมไพร์เหมือนกัน ทั้งคู่กอดกันก่อนที่เมอร์คิวชิโอจะดูดเลือดเธอ นางเอกได้แต่บอกตัวเองว่าเธอจะชอบเขาไม่ได้เด็ดขาดและหวังว่าซักวันหนึ่งเธอจะลืมเรื่องคืนนี้ได้... พอรู้ตัวอีกทีเธอก็มาถึงคฤหาสน์ของโรมิโอแล้ว นางเอกคุยกับโรมิโอและคืนนั้นก็ค้างที่คฤหาสน์ ทำให้ได้รู้เรื่องว่าจริงๆแล้วแต่ก่อนตระกูลคาปุเล็ตและตระกูลมอนตาคิวเลยสนิทกัน แต่เพราะเหตุการณ์บางอย่างทำให้ผิดใจกัน และคนที่ฆ่าพ่อของโรมิโอก็คือพ่อของนางเอกเอง ตอนแรกโรมมิโอก็ตั้งใจจะฆ่านางเอกแต่เมื่อเห็นว่าเมอร์คิวชิโอสนใจเธอจึงยอมละมือไป หลังจากคุยจบนางเอกกลับมาที่ห้องและพบว่าเมอร์คิวชิโอมาเคาะกระจกเรียก พอเข้าห้องมาได้เขาก็บ่นพร้อมกันกอดเธอทันที แล้วขอกินเลือดเพราะตัวเองเหนื่อยมาทั้งวัน แต่นางเอกปฏิเสธ เมอร์คิวชิโอแปลกใจเลยถามว่าทำไม แต่ก่อนก็ยอมให้เขาดูดเลือดไม่ใช่เหรอ นางเอกตอบว่านั่นเพราะเธอแพ้เขาต่างหาก เมอร์คิวชิโอเลยถามต่อว่างั้นคืนก่อนที่ผ่านมาล่ะ นางเอกไปต่อไม่ถูกเลยเบนไปว่าสำหรับเขาแล้วจะดูดเลือดใครก็ได้ไม่ใช่หรือไง เมอร์คิวชิโอเลยบอกว่างั้นนางเอกก็ชอบเขาซะสิ เขาจะได้กินเลือดเธอและก็จะได้ไม่ขัดใจนางเอกด้วย แต่นางเอกก็ปฏิเสธอีกเพราะเธอคิดว่าเขาต้องการแค่จะดูดเลือดเธอเท่านั้น อยู่ๆเมอร์คิวชิโอก็บอกว่าเขาน่ะเป็นห่วงนางเอก และยิ่งวันนี้มาอยู่ที่คฤหาสน์ของโรมิโออีกด้วย เขาเคยคิดว่าถ้าโรมิโอเกิดสนใจนางเอกแล้ว เขาก็จะยกนางเอกให้แบบไม่ใส่ใจอะไร แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าเขาคงทำไม่ได้แล้ว เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้เป็นเพราะอะไรกัน นางเอกได้แต่เงียบ เพราะเธอเองก็ไม่อยากยอมรับความรู้สึกของตัวเองเหมือนกัน
ตกดึกเมอร์คิวชิโอพานางเอกออกไปนอกคฤหาสน์ ตอนนี้นางเอกรู้สึกแล้วว่าเธอชอบเขาแต่ไม่อยากพูดออกไป เขาพาเธอไปถึงสระน้ำเล็กๆกลางป่า ทั้งคู่คุยกันก่อนที่นางเอกจะตัดสินใจกอดเขาจากด้านหลัง เมอร์คิวชิโอเลยถามว่านางเอกชอบเขาแล้วเหรอ แต่พอนางเอกตอบว่าใช่ เขากลับเป็ยฝ่ายเหวอไปเองก่อนถามกลับว่าทำไมนางเอกถึงชอบเขา ในเมื่อใครๆต่างก็ชอบโรมิโอมากกว่าแล้วทำไมนางเอกถึงเลือกเขาล่ะ ในเมื่อโรมิโอสนใจนางเอกด้วยเหมือนกัน แต่ยังไม่ทันจะพูดจบนางเอกก็จูบเขาแล้วสั่งไม่ให้พูดต่ออีก เมื่อรู้แน่นอนว่านางเอกเลือกเขา เมอร์คิวชิโอถึงกับน้ำตาไหล... หลังจากนั้นเขาก็เล่าเรื่องพี่ชายของตัวเองที่ถูกมนุษย์ฆ่ารวมทั้งเรื่องที่เขาคอยสนับสนุนรับใช้โรมิโอให้ฟังด้วย และบอกว่าความจริงแล้วเขาอยากไปในที่ที่ไม่มีใครเปรียบเทียบตัวเขากับคนอื่น นางเอกบอกว่างั้นซักวันเธอกับโรมิโอจะไปกับเขาด้วย ทั้งสองสัญญากัน เช้าวันต่อมานางเอกพยายามปลุกเมอร์คิวชิโอแต่เขาไม่ยอมตื่นซักที พอเขาตื่นขึ้นมาได้ก็จะลงโทษนางเอกด้วยการจูบแต่นางเอกไม่ยอม ทั้งสองคนไล่กันอยู่บนเตียงจนโรมิโอที่มายืนรอชักหงุดหงิดเลยตวาดเสียงดังให้ทั้งสองคนเลิกบ้าซะทีจนนกนอกคฤหาสน์วงแตกกระเจิง (ฮา)
ที่โต๊ะอาหารเช้านั้น นางเอกพยายามง้อขอโทษโรมิโอ แต่โรมิโอเริ่มรำคาญเลยบอกว่าเขาไม่ได้โกรธและเปลี่ยนมาคุยเรื่องงานกับเมอร์คิวชิโอแทน และถามว่าคิดจะส่งตัวนางเอกคืนมั้ย แต่เมอร์คิวชิโอบอกว่าไม่ส่งคืนหรอก โรมิโอจึงส่งจดหมายฉบับหนึ่งให้ พอเมอร์คิวชิโออ่านจบก็ขยำจดหมายนั้นทิ้งและรับปากว่าจะจัดการทุกอย่างเอง เขาพานางเอกไปที่ห้องของเขาและบอกว่าคืนนี้ทางฝั่งเทศมนตรีจะมาชิงตัวเธอคืนไป เขาจำเป็นต้องส่งตัวเธอคืนเพื่อไม่ให้เรื่องบานปลายมากกว่านี้  เมอร์คิวชิโอดึงนางเอกมากอดแล้วถามเศร้าๆว่าเขาจะไปหาเธออีกได้มั้ย นางเอกรับคำทำให้เขายิ้มออก เย็นนั้นเมอร์คิวชิโอพานางเอกไปส่งที่สะพาน ทันทีที่เจอกับปารีส ทั้งสองคนก็เขม่นกันทันที  พอตกดึกเมอร์คิวชิโอก็มาหานางเอกที่ห้องแล้วเริ่มบ่นทันทีว่าเขาเกลียดปารีสเป็นบ้า นางเอกได้แต่เหงื่อตกแล้วพอเขาเข้ามาในห้อง แต่เมอร์คิวชิโอก็ยังไม่วายปากเสียใส่นางเอกจนเธอชักเริ่มสงสัยตัวเองว่าชอบเขาไปได้ยังไง หลังจากคุยกันซักพักนางเอกก็ถามเขาว่าคืนนี้จะค้างมั้ย แต่เมอร์คิวชิโอปฏิเสธเพราะวันถัดไปต้องไปกับโรมิโอ อยู่ๆเขาก็ถามนางเอกว่าถ้าเกิดเขาหนีไปนางเอกจะไปกับเขามั้ย นางเอกไม่ลังเลที่จะบอกว่าแน่นอน เพราะเธอรู้ดีว่าถึงจะตอบว่าไม่เขาก็จะพาเธอไปด้วยแน่นอน 
วันถัดมานางเอกเข้าไปรายงานสถานการณ์กับเทศมนตรี ทว่าเย็นวันนั้นกลับมีแวมไพร์บุกมาที่บ้านและจับตัวแม่บุญธรรมไป นางเอกและน้องชายตามไปช่วยแต่ก็คลาดกัน นางเอกได้แต่โทษตัวเอง ทำให้น้องชายเกลียดแวมไพร์ยิ่งขึ้นและสัญญาว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายปกป้องพี่สาวบ้าง ทว่านางเอกกลับรู้สึกว่าน้องชายน่ากลัวไม่เหมือนคนที่เธอรู้จัก หลังจากนั้นเมอร์คิวชิโอเข้ามาปลอบนางเอกและสัญญาว่าเขาจะเป็นปกป้องนางเอกเอง เช้าวันถัดมานางเอกก็พบว่าน้องชายตัวเองไม่อยู่เสียแล้ว (ไปฉากจบ1) แต่เมื่อไปถึงโบสถ์ก็พบว่าน้องชายมาเป็นฮันเตอร์แล้ว เย็นนั้นนางเอกตัดสินใจเดินเล่นอยู่ในเมือง ก็มีชายใส่เสื้อคุลมาทักเธอ แต่นางเอกจำได้ทันทีว่านั่นคือเมอร์คิวชิโอ เขางอนที่นางเอกไปนั่งคุยเล่นอยู่กับปารีส นางเอกเลยบอกไว้งั้นไว้ให้แผนปรองดองสำเร็จก่อนนะแล้วเธอจะไปเดทกับเขา ทำเอาเมอร์คิวชิโอเซ็ง นางเอกเลยชวนเขาไปกินข้าวที่บ้านแทนทำให้เขาระรื่นขึ้นมาได้หน่อย
หลายวันถัดมานางเอกเอาจดหมายจากเทศมนตรีไปส่งให้โรมิโอ  หลังจากที่เขาอ่านจดหมายจนจบแล้วก็เรียกให้เมอร์คิวชิโอไปจัดการ โรมิโอยอมรับแผนปรองดองแล้ว นางเอกดีใจจนร้องไห้ แต่ระหว่างที่กำลังดีใจนั้นสาวใช้ก็เข้ามาบอกว่ามีคนบุกเข้ามาโจมตี โรมิโอและเมอร์คิวชิโอจะรีบออกไปและนางเอกขอตามไปด้วย แต่เมื่อไปถึงนางเอกก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าน้องชายตัวเองอยู่ในกลุ่มหัวรุนแรงที่เข้ามาโจมตีด้วย เกิดการต่อสู้กัน น้องชายนางเอกยิงโรมิโอแต่เมอร์คิวชิโอเข้ามารับกระสุนแทน (ไปฉากจบ2) พอเห็นว่าเพื่อนตัวเองโดนยิง โรมิโอก็ฟิวขาด เข้าจัดการทุกคนที่ขวางหน้า นางเอกบังคับให้เมอร์คิวชิโอกินเลือดตัวเองเพื่อจะได้หยุดโรมิโอที่กำลังคลั่ง และเธอก็ไม่อยากให้เขาตายด้วย แล้วนางเอกก็สลบไป
ในที่สุดนางเอกก็ฟื้นขึ้นมาที่ห้องของตัวเอง แม่บุญธรรมกลับมาแล้ว และเธอก็ได้รู้เรื่องจากหมอวิลเลียมว่า
เมอร์คิวชิโอกลับไปรักษาตัวแล้ว แต่ว่าโรมิโอหายตัวไป หลังจากที่อาการดีขึ้นนางเอกก็ไปพบเทศมนตรีรวม
ทั้งไปเยี่ยมน้องชายที่ติดคุกอยู่ด้วย ต่อมานางเอกก็ขอยกเลิกการหมั้นกับปารีสซึ่งเขาก็ยอมถอยให้อย่างดี วันหนึ่ง
เทศมนตรีช่วยหารถม้าไปให้นางเอกได้ไปเยี่ยมเมอร์คิวชิโอ พอเขาเห็นว่านางเอกมาเยี่ยมก็เป็นห่วงว่าเธอมาได้ยังไง
นางเอกเลยบอกว่าเทศมนตรีช่วยหารถม้าให้เพราะเห็นจดหมายจากเมอร์คิวชิโอ พอได้ยินดังนั้นเขาก็หน้าแดงและ
โวยวายว่าเทศมนตรีจะรู้ดีเกินไปแล้ว หลังจากให้น้องฝาแฝดกลับห้องไปแล้วก็เหลือเมอร์คิวชิโอกับนางเอกสองคน
เขาดึงนางเอกมากอดบนเตียง และขอให้เขาได้สัมผัสเธอมากกว่านี้ ก่อนจะจูบนางเอก (ไปฉากจบ 3) และค่อยๆ
ปลดเสื้อนางเอกออก นางเอกอายจึงหันหลังให้เขาแต่ก็ไม่รอด และเกมเด็กดีก็ให้คนเล่นจิ้นฟินกันเองต่อไปค่ะ =w=+
หลังจากที่กินข้าวเย็นกันเสร็จแล้ว เมอร์คิวชิโอก็ชวนนางเอกคุยถึงโรมิโอ ทั้งคู่มั่นใจว่าไม่นานโรมิโอต้องกลับมา
อย่างแน่นอน (ไปฉากจบ 4)
 
ฉากจบที่ 1 Kidnapping ED >> เนื้อเรื่องจะเหมือนกับของโรมิโอเลยคือเมืองเริ่มวุ่นวายเพราะดูเหมือนว่าแผนปรองดองจะไปได้ไม่ค่อยดีนัก มีทั้งฝ่ายแวมไพร์เข้าโจมตีและฝ่ายหัวรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เทศมนตรีเองก็ขอโทษที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อีกแล้ว รวมทั้งบอกว่าฝ่ายหัวรุนแรงที่เป็นมนุษย์จะเข้าโจมตีและก่อสงครามกับฝ่ายแวมไพร์ในคืนพระจันทร์เต็มดวงคืนถัดไป คืนนั้นนางเอกกลับมาร้องไห้เพราะเป็นห่วงทั้งน้องชายและแวมไพร์ที่เธอรู้จัก ตอนนั้นเองเมอร์คิวชิโอก็มาหาเธอและเล่าให้ฟังว่าโรมิโอเองก็คิดจะตายเพื่อรับผิดชอบเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่ตัวเขาเองคิดว่าต่อให้โรมิโอตายไปเหตุการณ์ก็ไม่ดีขึ้นหรอก จนถึงวันเปิดสงคราม นางเอกรีบวิ่งไปหาเมอร์คิวชิโอและเจอเขามาพร้อมกับถุงใบใหญ่ ที่ในนั้นมีโรมิโอที่สลบไสลเพราะยาของวิลเลียมอยู่ (ฮา)  ทั้งหมดตัดสินใจหนีไปด้วยกันท่ามกลางเสียงปืนอย่างมีความสุข(?)
 
ฉากจบที่ 2 Vampire ED >> เมอร์คิวชิโอกำลังจะตายเพราะถูกยิง โรมิโอจึงแนะนำให้นางเอกให้เลือดกับเขา แต่ว่านั่นก็เสี่ยงมากที่นางเอกอาจจะตายได้ เพราะเวลานี้เมอร์คิวชิโอไม่สามารถคุมตัวเองไม่ให้เผลิดดูดเลือดนางเอกจนหมดได้แน่นอน แต่นางเอกไม่สนใจเธอกรีดเลือดตัวเองให้เมอร์คิวชิโอกินทันที สำหรับนางเอกแล้วต่อให้เธอต้องตายก็ขอให้เขารอด เมอร์คิวชิโอที่ไม่มีสติแล้วดูดเลือดนางเอกอย่างคลุ้มคลั่งจนนางเอกอาการแย่และรู้ตัวแล้วว่าตัวเองคงตายแน่นอน เมอร์คิวชิโอที่ได้สติกลับมาพอรู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปก็คลั่งและจะไม่ยอมให้นางเอกตายเด็ดขาด.... เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้ นางเอกตื่นขึ้นมาพร้อมกับความฝันแปลกๆ ตอนนี้เธออยู่กับเมอร์คิวชิโอี่คฤหาสน์ในฐานะคนรัก นางเอกเล่าให้เขาฟังว่าเธอฝันว่าตัวเองเป็นมนุษย์ เมอร์คิวชิโอได้แต่หัวเราะและบอกว่าจะเป็นไปได้ยังไง เพราะเธอเป็นแวมไพร์นะ นางเอกเองก็จำอะไรไม่ค่อยได้ แต่พอถามเมอร์คิวชิโอ เขอก็ตอบปัดๆว่านางเอกน่ะเป็นแวมไพร์แท้ๆแต่ร่างกายอ่อนแอเลยไม่ค่อยได้ออกไปไหน และยังเตือนให้นางเอกอย่าลืมกินยาของวิลเลียมด้วย นางเอกรับคำแต่ตอนที่กำลังจะลุก เมอร์คิวชิโอก็กอดเธอจากด้านหลังและทั้งสองก็บอกรักกัน
 
ฉากจบที่ 3 >> แต่ระหว่างที่กำลังจะเข้าฉากชวนจิ้นนั้นเอง เมอร์คิวชิโอก็ลงไปดิ้นเพราะเจ็บแผลขึ้นมา..... นางเอกแอบหัวเราะแล้วบอกว่าสงบสุขดีจัง รวมทั้งบอกว่าไม่ต้องห่วงโรมิโอเพราะยังไงเขาก็ต้องกลับมาแน่นอน เมอร์คิวชิโอตอบว่าเขาไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นหรอกเพราะเขาเองก็เชื่อใจโรมิโอที่เป็นเพื่อนเหมือนกัน ก่อนจะบอกนางเอกว่าถ้าทุกอย่างจบลงได้ดี เขาอยากให้นางเอกมาอยู่กับเขาในฐานะครอบครัวที่คฤหาสน์แห่งนี้ และขอนางเอกแต่งงาน นางเอกตอบรับอย่างมีความสุข
 
ฉากจบที่ 4 Departure ED (True ED) >>  ทว่าจนถึงวันที่ผู้นำทั้งฝั่งแวมไพร์และฝั่งมนุษย์จะเซ็นสัญญาปรองดองกัน โรมิโอก็ยังไม่ปรากฏตัว จนวินาทีสุดท้ายในที่สุดโรมิโอก็มาถึงและเซ็นสัญญา ทำให้การปรองดองระหว่างแวมไพร์และมนุษย์สำเร็จไปได้ด้วยดี หลังจากการประชุมจบลง นางเอกก็ออกมาเจอเมอร์คิวชิโอที่รออยู่เธอด้านนอก นางเอกกำลังจะเริ่มบ่นเขาเรื่องที่แอบหลับระหว่างพิธีแต่กลับถูกเขาดึงไปกอด ระหว่างนั้นปารีสออกมาเจอพอดี ทั้งสองคนเลยปะทะฝีปากกันพอเป็นพิธี โรมิโอออกมาเห็นเลยเซ็งสุดขีด เมอร์คิวชิโอหันไปทักเขาแต่ก็ยังกอดนางเอกไม่ปล่อยอยู่ดี แถมยังไปปากเสียใส่เทศมนตรีอีกเลยโดนทั้งนางเอกทั้งโรมิโอทุบไปตามระเบียบ... ระหว่างทางกำลังจะกลับ นางเอกก็ชวนเมอร์คิวชิโอไปเดทตามที่เคยสัญญาไว้ ระหว่างกลับเขาบอกว่าวันพรุ่งนี้จะไปหานางเอกที่บ้าน ขอให้นางเอกบอกครอบครัวไว้ ปรากฏว่าเมอร์คิวชิโอมาที่บ้านนางเอกเพื่อขอนางเอกแต่งงานซึ่งแม่บุญธรรมก็เชียร์สุดๆ (ฮา) ทว่าหลังจากนั้นทั้งคนกลับมีเรื่องให้ทะเลาะกัน เมอร์คิวชิโองอนนางเอกและไม่ยอมมาเจอนางเอก นางเอกก็ร้อนใจเลยไปปรึกษาโรมิโอ แต่สุดท้ายทั้งสองคนก็ปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด ผ่านไปหลายเดือนหลังจากงานแต่งงานทั้งเมอร์คิวชิโอ นางเอก และทายาทที่อยู่ในท้องก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป
 
จขบ.สกรีม >> ฮวากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ชอบรูทแบบนี้!!!!!!! ทั้งเจ็บปวด ทั้งเอโร่ย และบากะคัปปุหรุได้อีก (ฮาา) เล่นไปก็หมั่นไส้ไป อะไรจะหวานกันได้ไม่ดูสถานการณ์ขนาดนี้ (ฮาา) รูทนี้ฉากจบจะเรียกว่าแฮปปี้หมดก็ยังได้ แต่รู้แล้วว่าทำไมเกมถึงได้เรท cero D เพราะรูทนี้ชัดๆเลยสินะ!!! \(=q=)/ สรุป ประทับใจรูทนี้มากกว่ารูทโรมิโอค่ะ อาจจะเพราะส่วนตัวแล้วชอบนิสัยเมอร์คิวชิโอด้วย เวลาอ้อนหรือกระซิบทีนี่ ไม่ต้องดัมมีเฮดก็ฟินตายได้ค่ะ นางเอกก็ฮาเกิน ทุบเมอร์คิวชิโอเป็นงานอดิเรกกันเลยทีเดียว เป็นรูทที่เล่นแล้วร้องไห้ไปด้วยหัวเราะไปด้วยได้ตลอดเลยค่ะ 
 
ป.ล. จขบ.สาบานค่ะว่าไม่ได้ลำเอียง แต่เขียนของเมอร์คิวชิโอยาวกว่าพระเอกอย่างโรมิโออีก (ฮาาาา) #ผิดมาก
 
ต่อไปกำลังจะไปเริ่มเล่นรูทฮันเตอร์ค่ะ ไว้จะมารายงานและสกรีมเรื่อยๆนะคะ แต่ก่อนหน้านั้นอาจจะมีรีวิวหนุ่มๆเกมอื่นแทรกก่อนพอให้ดี๊ด๊าค่ะ =w=)b
 
ไว้เจอกันค่ะทุกท่าน!! <3

0 件のコメント:

コメントを投稿